วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

10 วิธีที่ทำให้ชีวิตแฮปปี้มากกว่าใคร ๆ



1.รู้จักตัวเองการที่ชีวิตของคนเราจะแฮปปี้ได้นั้น จะต้องเริ่มจากตัวเองก่อน เพราะเราต้องรู้ตัวเราเองก่อนว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง ต้องรู้ว่าอะไรที่เราทำไปแล้วเรารู้สึกสบายใจ ไม่ต้องมานั่งเป็นกังวล หรืออะไรที่เรารู้สึกแย่ ๆ และอยากจะเลี่ยง ซึ่งเมื่อเราได้รู้จักตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว ก็จะเป็นตัวช่วยสำคัญให้สามารถจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

2.มีไอดอลประจำใจ
อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่สามารถช่วยให้คุณ ๆ ได้มีความสุขกันได้ง่าย ๆ ก็คือการยึดถือหลักการวิธีการใช้ชีวิต หลักความคิด และการประพฤติปฏิบัติตัวตามบุคคลที่คุณชื่นชอบหรือนับถือ ซึ่งบุคคลนั้น ๆ อาจจะเป็นได้ทั้งศิลปินดาราที่คุณชื่นชอบ ตัวการ์ตูนที่คุณโปรดปราน อาจารย์ เจ้านาย หรือแม้แต่คุณพ่อและคุณแม่รวมถึงคนอื่น ๆ ในครอบครัว ก็สามารถเป็นไอดอลของคุณได้เหมือนกัน

3.เป็นตัวของตัวเองน่ะดีที่สุดแล้ว
เคยมีคนถามคำถามเอาไว้ว่า "ถ้าตัวคุณพยายามที่จะเป็นเหมือนคนอื่น ๆ โดยที่ไม่ใช่ตัวตนจริง ๆ ของคุณ แล้วใครล่ะ จะมาเป็นตัวของคุณ?" นี่คือคำถามที่ช่วยให้หลาย ๆ คนตระหนักได้เป็นอย่างดีเลยว่า ไม่มีใครรู้จักคุณได้เท่ากับตัวของคุณเองแล้ว ฉะนั้น การใช้ชีวิตแบบที่ไม่ใช่ตัวของคุณเอง จะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยหน่ายจิตใจเป็นที่สุด และก็จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ไม่มีความสุขเอาเสียเลย ดังนั้น ใครที่เป็นแบบนั้นอยู่ ขอให้ลองปรับเปลี่ยนความคิดแบบนั้นซะใหม่ แล้วเป็นตัวของตัวเองเข้าไว้ ดีที่สุดแล้ว


4.ต้องควบคุมตัวเองให้เป็น
เรื่องของภาวะทางอารมณ์ การตัดสินใจ การใช้คำพูดคำจา และการแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ คุณควรที่จะรู้จักควบคุมให้ดี ๆ เพราะหากไม่มีการควบคุมหรือปล่อยปละละเลย ไม่สนใจ นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ก็อาจจะเป็นชนวนเหตุให้เรื่องราวแย่ ๆ ตามมาในชีวิตก็เป็นได้ ที่สำคัญไปกว่านั้น หากใครที่เป็นคนมีอารมณ์นิด ๆ หน่อย ๆ น้ำโหก็พุ่งปรี๊ดแล้วล่ะก็ ยิ่งเป็นบุคคลที่ต้องหัดควบคุมตัวเองโดยด่วนเลย

5.ใช้ชีวิตอย่างสมดุล
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้มักจะมีอยู่แบบคู่ขนานอยู่เสมอ ๆ เช่น เตี้ยกับสูง รวยกับจน ซีเรียสกับชิล ๆ ฯลฯ ฉะนั้นแล้ว หากจะให้ชีวิตคุณแฮปปี้ขึ้นมาได้ ก็ต้องมีการปรับทุก ๆ อย่างให้อยู่ในความสมดุล ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นคนใจร้อน ไม่รอบคอบ ก็ควรที่จะมีสติให้มากกว่านี้ มีเหตุมีผลกว่านี้สักหน่อย ค่อย ๆ ระงับอารมณ์ที่พุ่งแรงให้เย็นลง หรือกลับกันถ้าคุณเป็นคนที่เอื่อยเฉื่อย ชักช้า ก็ปรับตัวเองให้เร็วกว่านี้สักหน่อย จะได้ทำสิ่งอื่น ๆ ได้รวดเร็วมากขึ้

6.เรียนรู้ที่จะลืมเรื่องแย่ ๆ ในชีวิต
แน่นอนว่าคนเราเกิดมาจะให้มีแต่ความสุขอย่างเดียวนั้นเป็นไปไม่ได้ จะต้องมีเรื่องให้เสียใจ บ่อน้ำตาแตกกันทุกคนแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปจมอยู่กับเรื่องแย่ ๆ เศร้า ๆ นั้นอยู่ตลอดเวลานี่หน่า ฉะนั้นแล้ว ต้องรู้จักลืมเรื่องแย่ ๆ นั้นให้ได้ สลัดมันออกไปให้อยู่แต่ในอดีต อย่าให้มันตามติดตัวคุณมาด้วย เพราะชีวิตคนเรายังต้องก้าวเดินต่อไปทุกวัน อะไรแย่ ๆ เศร้า ๆ ซึม ๆ ก็ลืมไปซะ แล้วมองหาสิ่งที่ดีกว่าที่ตรงหน้า เป็นอะไรที่น่าสบายใจกว่ากันเยอะเลย

7.มีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต
ชีวิตจะดำเนินอยู่ได้ ก็ต้องมีจุดมุ่งหมายดี ๆ เพื่อให้ชีวิตได้ก้าวเดินไปตามแต่ละจุดที่วางเอาไว้ แต่การจะวางจุดหมายแต่ละจุดได้นั้น สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญก็คือการมีแรงบันดาลใจดี ๆ เพราะการมีแรงบันดาลใจนั้น ก็จะเป็นเหมือนบันไดที่ให้ชีวิตได้เดินก้าวไปในแต่ละขั้น ทั้งนี้ แรงบันดาลใจของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป บ้างก็มีคนในครอบครัวเป็นแรงบันดาลใจ บ้างก็มีสิ่งของต่าง ๆ ที่อยากได้เป็นตัวขับเคลื่อน ฉะนั้น ลองหาแรงบันดาลใจดี ๆ มาเป็นตัวกระตุ้นในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน จะเป็นอะไรที่เวิร์คมาก ๆ เลยทีเดียว

8.มองโลกในแง่บวก
เคยมีนักวิจัยทำการศึกษาเอาไว้ว่า "คนที่มองโลกในแง่บวกจะมีอัตราการเสียชีวิตเพราะเจ็บไข้ได้ป่วยน้อยกว่าคนที่มองโลกในแง่ลบ" อีกทั้งเมื่อมีการมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ ๆ แล้ว ก็จะเป็นตัวช่วยชั้นดีให้ชีวิตได้จัดการกับทุกสิ่งทุกอย่างที่แย่ ๆ ได้อย่างสบาย ๆ หายห่วง ดังนั้นแล้ว มองโลกและสิ่งต่าง ๆ ในแง่บวกเข้าไว้ ทั้งร่างกายและจิตใจจะได้แฮปปี้ ๆ ควบคู่กันไป

9.ชีวิตไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ไปหาเพื่อนฝูงบ้าง
มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม คนเราทุกคนเกิดมาก็มีเพื่อนด้วยหมดทั้งนั้น ครั้นจะมานั่งเศร้าซึม เหงาหงอย หรือใช้ชีวิตอยู่คนเดียวก็ไม่ใช่เรื่อง ดังนั้น หาเวลาว่างแล้วนัดเจอกับเพื่อนฝูงกันซะบ้าง เฮฮากันให้สุดตัว หยอกล้อหรือเล่นสนุกกันให้เต็มที่ แบ่งปันเรื่องราวดี ๆ สนุกสนานให้แก่กัน รับรองได้เลยว่าชีวิตคุณจะแฮปปี้ขึ้นอีกเยอะมาก ๆ เลยล่ะ


10.เดินหน้าใช้ชีวิตต่อไป
มาปิดท้ายกันในข้อที่ 10 หลังจากที่ได้รู้วิธีการดี ๆ ทั้ง 9 ข้อที่ผ่านมาแล้วนั้น ก็ขอให้ลองนำไปปรับใช้กับชีวิตของคุณด้วย จากนั้น ก็ใช้ชีวิตที่แฮปปี้ ๆ มีความสุขของคุณต่อไป เพราะชีวิตไม่ได้หยุดอยู่ที่วันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหน ๆ หาเรื่องที่เป็นความสุขเข้ามาเติมเต็มในชีวิตเยอะ ๆ อย่าไปเครียดหรือซึมเศร้ากับเรื่องต่าง ๆ ให้มากจนเกินไปนัก ที่สำคัญ ยิ้มให้กับตัวคุณเองเอาไว้เสมอ ๆ ด้วย เพียงเท่านี้ รับรองได้เลยว่า ตัวคุณเองจะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข จนคนอื่น ๆ ต้องหันมองด้วยความอิจฉากันอย่างแน่นอนเลย..

วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สูตรอาหารแก้ท้องผูก



คนที่ท้องผูกง่าย
มักพบว่ากินอาหารที่มีกากในน้อย เช่น อาหารจำพวกแป้งขัดขาว และไม่ค่อยได้กินผักหรือผลไม้สด ใยอาหารนั้นมี 2 ชนิด คือชนิดที่ละลายในน้ำ จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาล และโคเลสเตอรอลในเลือด และชนิดที่ไม่ละลายในน้ำจะช่วยป้องกันท้องผูกโดยเป็นตัวเพิ่มกากอาหารในลำไส้
วิธีป้องกันท้องผูกที่ดีที่สุด
เราควรกินอาหารที่มีใยทั้ง 2 ชนิดนี้ตามธรรมชาติให้มาก และหลากหลาย สำหรับผู้เริ่มต้น ก่อนอื่นให้พยายามดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร (8-10 แก้ว) และหันมากินข้าวที่ขัดสีน้อยอย่างข้างกล้องแทนข้าวขัดขาว แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้องให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าจะคุ้นกับการกินข้าวกล้องอย่างเดียว


ในตอนแรก ๆ อาจรู้สึกไม่สบายท้อง มีลมในท้องหรือท้องอืดมาก ส่วนขนมปังก็เลือกชนิดที่ทำจากแป้งไม่ขัดสีหรือขนมปังโฮลวีตแทนขนมปังขาว หรืออาจกินสลับกันไปมา

นอกจากนี้ยังอาจเติมรำข้าวสำเร็จรูป 2 ช้อนชาลงในโยเกิร์ต มูสลี่ หรือธัญพืชพร้อมบริโภค สำหรับเป็นอาหารมื้อเช้าทุกวันติดต่อกัน 1 สัปดาห์ แล้วเพิ่มรำข้าวเป็น 3 ช้อนชาในสัปดาห์ต่อมา ทั้งนี้ควรกินผลไม้สดให้ได้วันละ 4-5 ส่วน (ผลไม้ 1 ส่วน เช่น กล้วยน้ำว้า 1 ลูก หรือมะละกอ 10 คำ) และผักต่าง ๆ อีกประมาณ 4-6 ทัพพี

อย่างไรก็ตามคนแต่ละคนอาจต้องการใยอาหารในปริมาณที่ไม่เท่ากัน พยายามสังเกตว่าร่างกายขงตนเองต้องการใยอาหารมากเท่าไรจึงจะเพียงพอกับความต้องการ ไม่ควรพึ่งใยอาหารจากรำข้าวสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียว

เพราะจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการดูดซึมสารอาหารบางอย่างในระยะยาวได้ ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ายังคงมีอาการท้องผูกเร้อรังหรือปวดท้องแบบเป็น ๆ หาย ๆ
พึงบริโภคให้มาก
- ผลไม้ที่กินได้ทั้งเปลือก เช่น ฝรั่ง รวมทั้งผักใบเขียว ธัญพืช ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต เพื่อให้ได้ใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายในน้ำ

- ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
พึงลด

- อาหารที่ทำจากแป้งขัดขาว
 

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

7 เมนูฮิต ขายได้ไม่เกิน 30 บาท




     กรมการค้าภายในเร่งทำรายละเอียดการดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จเพื่อดูแลภาระค่าครองชีพของประชาชน เบื้องต้นประกาศราคาแนะนำอาหารปรุงสำเร็จ 7 รายการ เน้นการดูแลเฉพาะพื้นที่ที่ประชาชนมีทางเลือกน้อย
หลังจากที่คณะอนุกรรมการอาหารปรุงสำเร็จมีการพิจารณาเพื่อกำหนดแนวทางในการดูแลอาหารปรุงสำเร็จ นางวัชรี วิมุกตายนอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้กรมการค้าภายในได้ออกประกาศราคาแนะนำอาหารปรุงสำเร็จ 7 รายการที่ผู้บริโภคนิยมเพื่อให้ผู้ประกอบการจำหน่ายในราคาที่กำหนด โดยการกำหนดช่วงราคา และพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนผู้ประกอบการและผู้บริโภคระดับกลาง และล่าง เพื่อดูแลภาระค่าครองชีพของประชาชน
สำหรับรายการเมนูอาหารปรุงสำเร็จที่มีการประกาศราคาแนะนำโดยกำหนดช่วงราคา 20-30 บาท เช่น 
ข้าวไข่เจียว
ข้าวกะเพราหมู
กะเพราไก่
ข้าวราดแกง 1 อย่าง 25 บาท
ข้าวราดแกง 2 อย่าง 30 บาท
ไม่รวมอาหารทะเลและเนื้อ ไข่ดาวฟองละ 5 บาท
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในจะเน้นการดูแลพื้นที่ ที่ประชาชนมีทางเลือกน้อย เช่น อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โดยเห็นว่าไม่ควรบวกกำไรมากเกินไป เนื่องจากห้างมีรายได้หลักจากการขายสินค้า และไม่ควรหากำไรจากธุรกิจบริการอาหารเพราะจะสร้างภาระให้กับผู้บริโภค
ในการประชุมคณะอนุกรรมการอาหารปรุงสำเร็จที่ผ่านมา ห้างบางแห่งระบุว่าจะให้ความร่วมมือในการกำหนดเมนูเฉพาะในราคาประหยัดเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ข้าวไข่เจียว และยืนยันว่าไม่สามารถลดค่าเช่าได้
         นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้เร่งให้คณะกรรมการกำกับดูแลอาหารปรุงสำเร็จเร่งจัดทำรายละเอียดการดูแลราคาอาหารเพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้ทันเดือนมิถุนายนนี้

ที่มา Thai PBS

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เคล็ดลับการเป็น “เพื่อนร่วมงาน” ที่ดีกว่าเดิม


ภาพจาก LISAGURU

เราควรปฎิบัติต่อเพื่อนร่วมงานของเราอย่างไร ถึงจะดี?
1. ทักทายกันทุกวัน ถ้าคุณเดินตรงแหน่วเข้าไปนั่งหน้าคอมพ์เลย คุณก็มักจะพบว่าเพื่อนร่วมบริษัทไม่สนใจคุณ (อย่างดี) หรือหลีกเลี่ยงคุณไปเลย (ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด) ลองยิ้มทักทายทุกคนให้เป็นนิสัย คุณจะพบว่าที่ทำงานเปลี่ยนไปเยอะ
2. ถามความคิดเห็นคนอื่น คนเราชอบให้ถามว่าตัวเองคิดเห็นยังไง เช่น “งานนี้มีอะไรขาดหายไปนะ” หรือว่า “ฉันควรจะรับมือลูกค้ารายนี้ยังไง” จากนั้นก็ขอบคุณเขาอย่างจริงใจ แม้ว่าไอเดียนั้นจะไม่ช่วยอะไรก็ตาม
3. หลีกเลี่ยงการซุบซิบนินทา เพราะคุณไม่ชอบให้ใครพูดถึงลับหลัง ดังนั้น จงอย่าทำเช่นเดียวกัน ถ้ามีใครนินทา ก็แค่ตอบว่า “จริงเหรอ” แล้วเปลี่ยนหัวข้อเป็นเรื่องอื่น
4. ชมเชยคนอื่นบ่อยๆ เช่น มีคนเติมกระดาษในเครื่องถ่ายเอกสาร ก็ลองชมเขาหน่อย หรือถ้าเพื่อนของคุณเลิกบุหรี่ได้ ก็ยิ่งต้องชม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว พวกเราชมกันได้ทั้งนั้น
5. ทำงานหนักกว่าหรืออย่างน้อยก็ให้เท่ากับทีมงาน โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นหัวหน้า จำไว้เลยว่าอย่าให้ใครทำงานที่คุณจะไม่อยากทำเสียเอง

มนุษยสัมพันธ์สร้างมิตรภาพ



มนุษยสัมพันธ์สร้างมิตรภาพ

มิตรภาพของความเป็นเพื่อนเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตคนเรา การมีเพื่อนช่วยให้เรามีความสุข มีคนที่สามารถพูดคุยยิ้มแย้ม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อกันได้

การที่เราจะมีเพื่อนหรือพบเพื่อนใหม่ๆ ได้นั้น เราต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี หมั่นทักทายผู้อื่นเสมอ อาจด้วยการยิ้ม เพราะยิ้มเป็นภาษาสากลที่แสดงถึงความเป็นมิตร คนที่มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสแสดงถึงการมีความสุข มองโลกในแง่ดี น่าคบหา น่าประทับใจ ดูไม่มีพิษมีภัย เป็นคนมีเสน่ห์ เข้ากับผู้อื่นได้ง่าย จึงมีเพื่อนมากมายให้คบหา
การสร้างความประทับใจให้ผู้อื่นเป็นหนทางที่ช่วยให้เกิดมิตรภาพขึ้น และช่วยให้เรามีโอกาสที่ดีในการค้นพบมิตรภาพใหม่ๆ ได้รู้จักคนมากขึ้นมีมุมมองที่หลากหลาย จึงทำให้สามารถค้นพบเพื่อนที่ถูกคอได้อย่างไม่น่าเชื่อ

วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

งานที่ต้องส่ง

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน 2555 ต้องส่งงานวิจัย
วันอังคารที่ 12 มิถุนายน 2555 ต้องส่งงานฝึก 2